ขนมเปี๊ยะ homemade กลิ่นควันเทียน อร่อยมาก....

วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2568



                                                                                                                                                                       
  ประวัติการทำขนมเปี๊ยะ จากอดีตสู่ปัจจุบัน พร้อมแนวทางการเลือกวัตถุดิบเพื่อสุขภาพ

จุดกำเนิดและความเป็นมา

ขนมเปี๊ยะ (Mooncake หรือ Chinese Pastry) เป็นขนมอบสไตล์จีนที่มีประวัติยาวนานนับร้อยปี เชื่อกันว่ามีต้นกำเนิดในสมัยราชวงศ์หยวน ประเทศจีน โดยในยุคนั้นชาวจีนใช้ขนมนี้เป็นสัญลักษณ์เฉลิมฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ รวมถึงเป็นสื่อสารลับในการปฏิวัติทางการเมือง

เดิมที ขนมเปี๊ยะจะมีลักษณะเป็นแผ่นกลม แป้งหนา ไส้ถั่วกวน ไส้เม็ดบัว หรือไส้งาดำ มักทำด้วยน้ำมันหมูเพื่อความหอมมัน และใช้ไข่แดงเค็มเป็นสัญลักษณ์ของดวงจันทร์

การแพร่เข้าสู่ไทย

ขนมเปี๊ยะถูกนำเข้ามาในไทยพร้อมกับการตั้งถิ่นฐานของชาวจีนโพ้นทะเลในสมัยรัชกาลที่ 5 และได้รับการปรับสูตรให้เข้ากับรสชาติคนไทย เช่น การทำแป้งบางขึ้น เพิ่มความนุ่ม และลดความหวาน มักพบในงานมงคล เช่น งานแต่ง งานขึ้นบ้านใหม่ หรือใช้เป็นของฝากในเทศกาล

การพัฒนาในยุคปัจจุบัน

ปัจจุบันขนมเปี๊ยะถูกพัฒนาให้มีรูปแบบและรสชาติหลากหลายมากขึ้น ทั้งขนาดจิ๋ว พกพาง่าย และรสชาติฟิวชัน เช่น มัทฉะ ช็อกโกแลต มันม่วง หรือชาไทย รวมถึงการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ดูสวยงามทันสมัย เหมาะกับเป็นของฝากพรีเมียม

 

 

 

การใช้วัตถุดิบและสารปรุงแต่งที่ดีต่อสุขภาพ

เนื่องจากผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น ขนมเปี๊ยะสมัยนี้จึงมีการปรับสูตรเพื่อลดน้ำตาล ไขมัน และสารปรุงแต่งสังเคราะห์ โดยใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ เช่น

1.     แป้งโฮลวีต หรือแป้งข้าวไรซ์เบอร์รี

o    เพิ่มใยอาหาร ช่วยให้อิ่มนาน และดีต่อระบบขับถ่าย

2.    น้ำมันรำข้าว หรือน้ำมันมะพร้าว

o    แทนน้ำมันหมู ลดไขมันอิ่มตัว และให้กลิ่นหอมธรรมชาติ

3.    น้ำตาลมะพร้าว หรือน้ำผึ้ง

o    ให้ความหวานละมุน ลดการพุ่งของระดับน้ำตาลในเลือด

4.   ไส้ธัญพืชและถั่วเปลือกแข็ง

o    เช่น ถั่วอัลมอนด์ วอลนัท งาดำ เพิ่มโปรตีนและไขมันดี

5.    สีจากธรรมชาติ

o    ใช้ผงชาเขียว มันม่วง ฟักทอง แทนสีสังเคราะห์ เพื่อความปลอดภัย


 

 

แนวโน้มในอนาคต

ในอนาคต ขนมเปี๊ยะเพื่อสุขภาพอาจได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเน้น “Clean Label” หรือฉลากสะอาดที่ไม่มีสารกันเสีย ไม่มีสีและกลิ่นสังเคราะห์ พร้อมใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก และอาจมีสูตรเฉพาะสำหรับผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม เช่น

  • สูตรคีโต (Keto-friendly) สำหรับคนควบคุมน้ำตาล
  • สูตรวีแกน (Vegan) ปราศจากผลิตภัณฑ์จากสัตว์
  • สูตรไร้กลูเตน (Gluten-free) สำหรับผู้แพ้กลูเตน

สรุป

จากขนมประเพณีเก่าแก่สัญลักษณ์แห่งความเป็นสิริมงคล ขนมเปี๊ยะได้เดินทางผ่านกาลเวลาและพัฒนาให้เข้ากับวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ โดยยังคงเสน่ห์ด้านรสชาติ แต่ปรับสูตรและวัตถุดิบให้ดีต่อสุขภาพมากขึ้น ถือเป็นการผสมผสานความอร่อยและคุณค่าทางโภชนาก